หน้าฝนอย่างนี้มีวิธีการดูแล ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ อย่างไรกันบ้างนะ?

ที่ปัดน้ำฝนดูจะเป็นส่วนของรถยนต์ที่ดูเผิน ๆ อาจจะไม่จำเป็นเท่าไหร่นักยิ่งในช่วงหน้าร้อนที่ไม่ค่อยจะมีฝนก็ดูจะไม่จำเป็น แต่ในหน้าฝนนี่สิที่จำเป็นต้องใช้งานที่ปัดน้ำฝนแทบจะตลอดทุกครั้งที่ออกท้องถนนเลยทีเดียวทำให้ที่ปัดน้ำฝนกลายเป็นส่วนที่สำคัญหลัก ๆ เลยทีเดียว เพราะหากกระจกรถยนต์มัวไม่ด้วยน้ำฝนคนขับก็ไม่สามารถขับรถได้อย่างปกติแถมยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย ดังนั้นการดูแลที่ปัดน้ำฝนให้สามารถใช้งานได้ตามปกติอยู่เสอมจึงเป็นเรื่องสำคัญ หน้าฝนอย่างนี้มีวิธีการดูแล ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ อย่างไรกันบ้างนะ?

หน้าฝนอย่างนี้มีวิธีการดูแล ที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ อย่างไรกันบ้างนะ? อันดับแรกคือการเลือกที่ปัดน้ำฝนที่ทำจากโลหะ (มีกฎหมายให้ใช้ที่ปัดน้ำฝนที่ตัวทำจากโลหะเท่านั้น ดังนั้นหากซื้อรถยนต์จามศูนย์ทั่วไปจะได้ที่ปัดน้ำฝนที่ทำจากโลหะอยู่แล้ว) ยางจะต้องแนบสนิทกับตัวกระจกสามารถปัดน้ำฝนได้หมดไม่เหลือคราบ ยางและใบมีขนาดที่สมดุลกันเพื่อประสิทธิภาพในการปัดน้ำฝนที่ดี หากยางเสื่อมจะไม่สามารถปัดน้ำฝนได้หมดและเหลือรอยเอาไว้ หรือหากที่รูฉีดน้ำโดนอุดตันเวลาที่ฉีดน้ำออกมาจะทำให้กระจกเป็นคราบได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นต้องเลือกที่ปัดน้ำฝนรวมถึงเช็ครูปล่อยน้ำหน้ากระจกให้ดีด้วย

หน้าฝนอย่างนี้มีวิธีการดูแลที่ปัดน้ำฝนรถยนต์อย่างไรกันบ้างนะ? จะรู้ได้อย่างไรว่ายางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมและถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้ว? สังเกตได้จากเนื้อยางกรอบ เวลาปัดน้ำฝนแล้วยังเหลือคราบน้ำอยู่ บางจุดบนหน้ากระจกยังเหลือละอองน้ำเอาไว้ มีเสียงระหว่างที่ปัดน้ำฝนเป็นเสียงกระตุกของเหล็ก หากเกิดอาการเหล่านี้ให้รีบเปลี่ยนทันที โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของยางที่ปัดน้ำฝนจะอยู่ที่ประมาณ 1 ปีขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากดูแลดี ๆ ก็สามารถยืดอายุการใช้งานออกไปได้อีกนานทีเดียว

หน้าฝนอย่างนี้มีวิธีการดูแลที่ปัดน้ำฝนรถยนต์อย่างไรกันบ้างนะ? วิธีการดูแลที่ง่ายที่สุดคืออย่าจอดรถตากแดดนานเกินไป แดดจะทำให้ยางที่ปัดน้ำฝนกรอบและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดบ้างเพื่อให้เวลาปัดน้ำฝนไม่เกิดคราบสกปรกของฝุ่นที่สะสม เวลาที่ทำความสะอาดอย่าให้ผงซักฟอกเพราะจะทำร้ายยางที่ปัดน้ำฝนรวมถึงเคลือบสีของรถยนต์อีกด้วย กระจกหน้ารถก็ควรจะสะอาดอยู่เสมอด้วยเช่นกันเวลาที่เช็ดกระจกจะได้ไม่ติดขัด

ติดตามวงการรถ BMW มือสองและติดตามMercedes-Benz รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต สมกับความเป็นหนึ่งของค่ายยนตกรรม