ปัญหายางรถยนต์บวม ปัญหาอันตรายถ้าหากไม่ยอมเปลี่ยนยาง
รถยนต์ มีส่วนประกอบสำคัญต่าง ๆ มากมาย ที่เราจะต้องหมั้นคอยตรวจสอบและดูแล อย่างเช่นยางรถยนต์ ก็ถือเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญอย่างมาก ข่าวรถยนต์ สำหรับหน้าที่ของยางรถยนต์ เป็นอะไหล่ที่ต้องทำหน้าที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่รองรับน้ำหนักของตัวรถ เป็นตัวที่ทำให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ช่วยในการทำให้รถหยุดการเคลื่อนไหว และช่วยในการลดการสั่นสะเทือน และแรงกระแทกจากการขับขี่บนท้องถนน
อายุของยางรถยนต์นั้น ก็ย่อมมีวันเสื่อมสลายออกไป ค่าเฉลี่ยนโดยประมาณของยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานไม่เกิน 3 ปี แต่บางครั้งสภาพของยางอาจจะมีอายุที่เสื่อมเร็วกว่า โดย ปัญหายางรถยนต์บวม ที่เราจะต้องดูสภาพการใช้งานของผู้ขับขี่แต่ละคนด้วย เมื่อยางเริ่มเสื่อมสภาพ สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน คงเป็นตัวยางจะเกิดการบวมพองขึ้น หากขับขี่ด้วยอาการยางบวม ผู้ขับขี่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงมาก ๆ
ปัญหายางรถยนต์บวม ที่เป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่อย่างมาก
ปัญหายางรถยนต์บวม ปัญหาข้อแรกที่สำคัญ ก็คือ ยางรถยนต์บวมเกิดจากได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง ในขณะที่เรากำลังขับขี่รถยนต์ เคล็ดลับขับรถยนต์ให้ปลอดภัยสำหรับมือใหม่ บางครั้งเราอาจจะไปลงหลุม หรือขับไปบนท้องถนนที่มีลูกระนาด แล้วเกิดกระแทกอย่างรุนแรง แรงกระแทกที่รุนแรงนั้น สามารถส่งผลต่อโครงสร้างของตัวอย่างภายใน ทำให้ระบบโครงสร้างของตัวยางเกิดอาการบิดเบี้ยว การถักทอของเส้นใยเกิดขาดได้ ยิ่งยางล้อรถยนต์ ยังโดนความร้อนจากแสงแดด บนท้องถนนมีโอกาสที่ยางจะเกิดการระเบิดได้
ปัญหายางรถยนต์บวม ปัญหาข้อต่อมาที่สำคัญ ก็คือ ยางล้อรถยนต์ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยน ด้วยอายุของตัวยางที่หมดอายุในการใช้งานแล้ว อย่างที่เราได้บอกไปตอนต้น ว่าอะไหล่ยางรถยนต์ ก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน โดยเฉลี่ยแล้ว ยางรถยนต์จะใช้งานได้ไม่เกิน 3 ปี หากนับเป็นระยะทางก็ไม่ควรเกิน 40,000 กิโลเมตร วิธีการง่าย ๆ ในการตรวจสอบว่ายางล้อรถยนต์หมกอายุแล้วหรือยัง ให้เราดูดอกของยางว่ามันระนาบเรียบแล้วหรือเปล่า หรือที่เขาเรียกว่า ดอกยางหายนั้นเอง
ปัญหายางรถยนต์บวม ปัญหาข้อสุดท้ายที่สำคัญ ก็คือ เราเติมลมเข้าไปในยางล้อรถยนต์น้อยจนเกินไป หรือไม่ก็มากจนเกินไป ส่งผลให้เวลาที่ล้อยางไปเสียดสีกับท้องถนนเกิดความเสียหาย เพื่อทางที่ดีเราควรจะเติมลมให้พอดีกับการใช้งาน โดยรถยนต์แต่ละรุ่น จะมีบอกอัตรายของลมยางว่าแต่ละล้อตรงส่วนหน้า และส่วนท้ายจะต้องเติมลมปริมาณเท่าไร