ก่อนจะไปดูว่าพอเจอปัญหา รถไฟไหม้ แล้ว จะต้องรับมือหรือต้องทำอะไรบ้าง

ก่อนจะไปดูว่าพอเจอปัญหา รถไฟไหม้ แล้ว จะต้องรับมือหรือต้องทำอะไรบ้าง ให้มาทำความเข้าใจก่อนว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ขึ้นได้ เพราะหากคิดๆ ดูแล้ว รถยนต์ซึ่งประกอบไปด้วยชิ้นส่วนประเภทโลหะเป็นส่วนใหญ่ ไม่น่าจะติดไฟได้ง่ายดาย แม้ว่าจะโดนสะเก็ดไฟ หรืออยู่ในสภาวะที่มีความร้อนสูงก็ตามที ต่อให้มีรถบางคันที่เกิดเพลิงไหม้จากสาเหตุเครื่องยนต์ร้อนจัด มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่ความร้อนจริงๆ แต่ความร้อนนั้นมันส่งผลต่อระบบอื่นๆ ในเครื่องยนต์ต่างหาก

ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ รถไฟไหม้ ก็มีอยู่หลายประเด็น แต่ถ้าเลือกเฉพาะที่พบเจอได้บ่อย ก็มีแค่ไม่กี่อย่าง เช่น เชื้อเพลิงรั่ว ระบบไฟฟ้าขัดข้อง การบำรุงและตรวจเช็คสภาพรถที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น ซึ่งอันที่จริง ปัญหาทั้งหมดนี้จะมีสัญญาณเตือนเราอยู่แล้ว เราแค่ต้องหมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น อย่างในกรณีของเชื้อเพลิงรั่ว เราก็จะได้กลิ่นของน้ำมันจางๆ หรือพบเห็นร่องรอยของของเหลวบนพื้น หลังจากที่รถออกตัวไปแล้ว ถ้าจับสัญญาณได้ก็จะลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุไฟไหม้ได้

ทีนี้เมื่อรถไฟไหม้ไปแล้ว เราจะมีวิธีจัดการอยู่ 2 ระดับตามความรุนแรงที่เกิดขึ้น หากมีไฟลุกไหม้ในบริเวณจำกัด และปริมาณเปลวไฟไม่มากนัก เราจะจัดการเองในเบื้องต้น ด้วยการดับไฟลงก่อน อย่าใช้น้ำสาดลงไป แต่ให้ใช้ถังดับเพลิงที่เป็นผงเคมีแทน หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ใช้ผ้าเปียกชุบน้ำแล้วคลุมลงไปที่เปลวไฟ มันจะให้ผลที่ดีกว่าการสาดน้ำลงไปมากทีเดียว

แต่ถ้ารถไฟไหม้รุนแรงจนเราควบคุมไม่ได้ ก็ต้องออกให้ห่างจากพื้นที่นั้นก่อน แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาดูแลแทน และอย่าลืมแจ้งตำรวจหรือหน่วองานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เอาไว้ด้วย เผื่อว่าเขาจะได้ช่วยกันคนอื่นออกไป ไม่ให้มารับอันตรายที่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนั้น เพราะถ้ามันระเบิดขึ้นมา ความเสียหายคงไม่ได้หยุดแค่รถเราคันเดียวแน่นอน

ติดตามวงการรถ BMW มือสองและติดตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆเตรียมตัว การสอบใบขับขี่รถยนต์ 2563ผ่านระบบDLT Smart Queue